อย่างที่เรารู้กันจังหวัดเชียงใหม่ นี้ติดโผในจังหวัดที่น่าเที่ยวที่สุดของไทย เป็นเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตที่ใครต่อใครหลายคนต่างหมายมุ่งที่จะแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน เพราะเป็นเมืองที่มากล้นไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ครบครันไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม โบราณสถานและวัดวาอารามที่วิจิตรตระการตา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมากันไม่ขาดสาย ดังนั้นเราจึงวางแผนที่จะไปเที่ยวกันสักสัปดาห์ เพื่อชมความงามภาคเหนือของไทยกัน
จากการเปรียบเทียบ หากเรานั่งรถไฟไป เราจะใช้เวลานานกว่าไปรถโดยสาร แต่ราคาถูกกว่า หากอยากจะประหยัดเวลา สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่ แต่ราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นเราจึงมองหาตั๋ว รถโดยสาร จึงเลือกจองตั๋วรถจากบริษัท สมบัติทัวร์
แผนคร่าวๆในการเดินทางของเรา
i. |
จองตั๋วรถโดยสาร |
ii. |
ไปสถานีรถโดยสารของบริษัท สมบัติทัวร์ |
iii. |
เตรียมตัวขึ้นรถโดยสาร |
iv. |
ทานข้าวเย็นที่จุดพักรถ |
v. |
เดินทางถึงสถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ |
จองตั๋วรถโดยสาร
|
1. |
เราได้จองตั๋ว รถทัวร์จาก กรุงเทพฯ ไป เชียงใหม่ กับ บริษัท สมบัติทัวร์ ราคาประมาณ 500 บาทต่อคน ในชั้นเฟิรส์คราสหรือแบบซูพรีม เป็นรถ วีไอพี 24 ที่นั่งจัดเบาะนั่งแบบ ฝั่งซ้าย 1 ที่ ฝั่งขวา 2 ที่ ทั้งหมด 8 แถว |
ไปยังสถานีรถโดยสารของบริษัท สมบัติทัวร์
|
2. |
ในวันเดินทาง เราได้นั่งรถแท็กซี่จากสนามบินนานาชาติ ดอนเมือง ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที จากสนามบินนานาชาติดอนเมือง นี้ตั้งอยู่บนถนนเดียวกับบริษัท เมื่อเราไปถึงสถานีของบริษัทตรงเคาน์เตอร์ใกล้ๆกับทางเข้า จะมีพนักงานคอยแนะนำเกี่ยวกับการไปเอาตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋วของบริษัท
|
|
3. |
ตอนที่เรามาถึงสถานีขนส่งของบริษัท สมบัติทัวร์ นั้นเวลาเหลือค่อนข้างเยอะ เราจึงได้เดินดูรอบๆบริษัท ในสถานีนี้มีผู้โดยสารเยอะพอสมควร แต่มีโซฟาที่นั่งมากพอที่จะรองรับกับจำนวนผู้โดยสารที่มารอใช้บริการ จึงเป็นที่พึงพอใจแก่ผู้โดยสารหลายๆคนก่อนขึ้นรถ
|
|
4. |
ร้านขายของภายในสถานี มีขายขนม เครื่องดื่ม น้ำอัดลม หาซื้อได้จากร้านที่มีอยู่ในอาคาร แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการหาข้าว หรือ เมนูทานก่อนขึ้นรถนั้น จะมีขายอยู่ข้างนอกอาคาร และในอาคารยังมีร้านนวดผ่อนคลาย และห้องน้ำ
|
เตรียมตัวขึ้นรถโดยสารของบริษัท สมบัติทัวร์
|
5. |
30 นาทีก่อนออกเดินทาง ไปรอยังลาดจอดรถโดยสาร จะมีพนักงานต้อนรับคอยเช็คตั๋วรถ และเอากระเป๋าเดินทางของเราไปเก็บไว้ในช่องใส่กระเป๋า
|
|
6. |
เมื่อเราขึ้นไปบนรถ ภายในรถบัสมีการตกแต่งอย่างไม่มีที่ติ และจะมีพนักงานต้อนรับคอยแนะนำเกี่ยวกับเลขที่นั่งที่อยู่ในตั๋ว และยังมีหมอนรองคอไว้ให้ใช้ด้วย
|
|
7. |
ในส่วนตัวที่ชอบมากของบริษัท สมบัติทัวร์นี้ คือ ที่นั่งที่กว้าง ใหญ่ และสบายสุดๆ มีพื้นที่ว่างพอสมควรตรงที่วางเท้า ที่นั่งสามารถปรับเอนได้
*แนะนำ: หากต้องการพื้นที่ตรงที่วางเท้าเยอะ ให้เลือกนั่งแถวสุดท้าย จะสามารถยืดขาได้สุดๆ โดยไม่โดนกับที่นั่งข้างหน้าเรา
|
|
8. |
อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจมากคือ การบริการและสิ่งที่อำนวยความสะดวกภายในรถ ผู้โดยสารจะได้รับผ้าห่มคนละ 1 ผืน ซึ่งห่อด้วยพลาสติก (ซึ่งทำให้เรารู้ได้ว่าคือของใหม่ ไม่ได้ใช้ซ้ำ) และยังมีขนม น้ำ ไว้บริการ
|
ทานข้าวที่จุดพักรถ
|
9. |
หลังจากเดินทางมา 4 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงจุดพักรถ โดยจะใช้เวลาพักประมาณ 20-30 นาที โดยผู้โดยสารสามารถหาข้าวทานตามร้านอาหารในบริเวณจุดพักรถมีอาหารขายมากมาย เช่น ก๋วยเตี๋ยว, ข้าวแกง หรือ อาหารตามสั่ง , และจากตั๋วรถของบริษัทสามารถแลกข้าวต้มได้ อาหารอร่อยมาก หากใครมองหาจะเตรียมเสบียง ขนม นมเนย สามารถหาซื้อได้ในจุดพักรถ
|
|
10. |
เมื่อจะกลับไปขึ้นรถ พนักงานต้อนรับจะแจกเครื่องดื่มให้กับผู้โดยสารแต่ละคนอีกครั้ง เป็นการบริการที่ดีมากจริงๆ
|
เมื่อเดินทางถึง กรุงเทพฯ
|
11. |
พนักงานจะแจกผ้าเย็นให้ผู้โดยสารแต่ละคน อย่างละ 2 ผืน เพื่อทำให้สดชื่น ก่อนจะถึง สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ คนขับรถและพนักงานจะช่วยยกกระเป๋าลงจากรถให้
|
|
12. |
หลังจากที่ใช้เวลาเดินทางกว่า 12 ชั่วโมง จาก กรุงเทพฯ ในที่สุดเราก็ถึง เชียงใหม่ โดยสวัสดิภาพ
|